posted on 10 Jul 2012 20:11 by seepan99
- อธิบายหน้าที่ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูลทั้งหมด
หน้าที่ของบุลคล
ผู้จัดการฐานข้อมูล (Database Administrator)
ผู้จัดการฐานข้อมูล (Database Administrator) : เป็นผู้ดูแลทั้งฐานข้อมูลและระบบ
จัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล ประสานงานและตรวจสอบ
การใช้งาน รวมทั้งจัดหาและดูแลรักษาอุปกรณ์ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
นักออกแบบฐานข้อมูล (Database Designer)
นักออกแบบฐานข้อมูล (Database Designer) : รับผิดชอบการกำหนดรูปแบบและ
โครงสร้างของข้อมูลที่จะนำมาเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูล งานนี้มักจะต้องทำก่อนการจัดเก็บ
ฐานข้อมูล โดยนักออกแบบจะต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของข้อมูล ที่ต้องการจัดเก็บ
เป็นฐานข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้ เพื่อให้สามารถเข้าใจความต้องการได้อย่างถูกต้อง แล้วจึงนำ
ข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และออกแบบ ซึ่งเมื่อออกแบบเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะนำไปให้
ผู้ใช้ตรวจสอบว่าตรงกับความต้องการของผู้ใช้และครบถ้วนหรือไม่ถ้าไม่ถูกต้องหรือไม่
ครบถ้วนก็จะได้แก้ไขก่อน การพัฒนาเพื่อนำไปใช้งานจริง
ผู้จัดการฐานข้อมูล (Database Administrator) : เป็นผู้ดูแลทั้งฐานข้อมูลและระบบ
จัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล ประสานงานและตรวจสอบ
การใช้งาน รวมทั้งจัดหาและดูแลรักษาอุปกรณ์ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
นักออกแบบฐานข้อมูล (Database Designer)
นักออกแบบฐานข้อมูล (Database Designer) : รับผิดชอบการกำหนดรูปแบบและ
โครงสร้างของข้อมูลที่จะนำมาเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูล งานนี้มักจะต้องทำก่อนการจัดเก็บ
ฐานข้อมูล โดยนักออกแบบจะต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของข้อมูล ที่ต้องการจัดเก็บ
เป็นฐานข้อมูลจากกลุ่มผู้ใช้ เพื่อให้สามารถเข้าใจความต้องการได้อย่างถูกต้อง แล้วจึงนำ
ข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และออกแบบ ซึ่งเมื่อออกแบบเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะนำไปให้
ผู้ใช้ตรวจสอบว่าตรงกับความต้องการของผู้ใช้และครบถ้วนหรือไม่ถ้าไม่ถูกต้องหรือไม่
ครบถ้วนก็จะได้แก้ไขก่อน การพัฒนาเพื่อนำไปใช้งานจริง
กลุ่มผู้ใช้ (End Users)
กลุ่มผู้ใช้ (End Users) : คือกลุ่มผู้ที่ ต้องการเข้าถึงข้อมูล เพื่อทำการดูข้อมูลปรับปรุง
ข้อมูลและจัดทำรายงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล กลุ่มผู้ใช้แบ่งได้เป็น ๔ ประเภทด้วยกัน
คือ ๑. ผู้ใช้แบบแคสชวล (casual end users)ต้องการใช้ข้อมูลที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง
ของการใช้งาน ๒. ผู้ใช้ที่ทำงานกับข้อมูลเหมือนๆ กันในทุกครั้ง (naive หรือ parametric
end users)ตัวอย่างเช่น พนักงานของธนาคารที่ทำหน้าที่รับฝาก-ถอนเงิน ๓. กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องเข้า ใช้ รายละเอียดของข้อมูลในส่วนโครงสร้างภายใน เช่น วิศวกร นักวิทยาศาสตร์นักวิเคราะห์งาน และ ๔. ผู้ใช้ที่ใช้ฐานข้อมูลส่วนบุคคล(stand-alone users)โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีวิธีการทำงาน ที่ง่าย และสวยงาม
กลุ่มผู้ใช้ (End Users) : คือกลุ่มผู้ที่ ต้องการเข้าถึงข้อมูล เพื่อทำการดูข้อมูลปรับปรุง
ข้อมูลและจัดทำรายงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล กลุ่มผู้ใช้แบ่งได้เป็น ๔ ประเภทด้วยกัน
คือ ๑. ผู้ใช้แบบแคสชวล (casual end users)ต้องการใช้ข้อมูลที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง
ของการใช้งาน ๒. ผู้ใช้ที่ทำงานกับข้อมูลเหมือนๆ กันในทุกครั้ง (naive หรือ parametric
end users)ตัวอย่างเช่น พนักงานของธนาคารที่ทำหน้าที่รับฝาก-ถอนเงิน ๓. กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องเข้า ใช้ รายละเอียดของข้อมูลในส่วนโครงสร้างภายใน เช่น วิศวกร นักวิทยาศาสตร์นักวิเคราะห์งาน และ ๔. ผู้ใช้ที่ใช้ฐานข้อมูลส่วนบุคคล(stand-alone users)โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีวิธีการทำงาน ที่ง่าย และสวยงาม
นักวิเคราะห์ระบบและนักเขียนโปรแกรมประยุกต์ (System analysts and
Application Programmers)
นักวิเคราะห์ระบบและนักเขียนโปรแกรมประยุกต์ (System analysts and Application Programmers) : เป็นผู้รวบรวม วิเคราะห์ออกแบบโปรแกรมตามความต้องการ
ของผู้ใช้ และเป็นผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ บุคลากรทั้งสอง
ประเภทควรจะมีความคุ้นเคยกับความสามารถของระบบจัดการฐานข้อมูลที่เลือกใช้เป็นอย่างดี
ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS Designers and Implementers)
ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS Designers and Implementers) :
เป็นกลุ่มบุคคลที่ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่
และซับซ้อน ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญหลายส่วน เช่น ส่วนการสร้างพจนานุกรมข้อมูลภาษา
ในการดึงข้อมูล ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ ส่วนการเข้าถึงข้อมูล และส่วนความปลอดภัยของข้อมูล
เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้คือ บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ดีบีเอ็มเอส นั่นเอง
ผู้พัฒนาเครื่องมือ (Tool Developers)
ผู้พัฒนาเครื่องมือ (Tool Developers):เครื่องมือเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการออกแบบและ
ใช้งานระบบฐานข้อมูล อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น และมักจะจำหน่ายแยก
จากระบบจัดการฐานข้อมูล
พนักงานปฏิบัติการและผู้ดูแลระบบ (Operators and Maintenance Personnel)
พนักงานปฏิบัติการและผู้ดูแลระบบ (Operators and Maintenance Personnel) : เป็น
กลุ่มบุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแลและบำรุงรักษาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบฐานข้อมูลใน
ขณะใช้งานจริง
Application Programmers)
นักวิเคราะห์ระบบและนักเขียนโปรแกรมประยุกต์ (System analysts and Application Programmers) : เป็นผู้รวบรวม วิเคราะห์ออกแบบโปรแกรมตามความต้องการ
ของผู้ใช้ และเป็นผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้ บุคลากรทั้งสอง
ประเภทควรจะมีความคุ้นเคยกับความสามารถของระบบจัดการฐานข้อมูลที่เลือกใช้เป็นอย่างดี
ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS Designers and Implementers)
ผู้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS Designers and Implementers) :
เป็นกลุ่มบุคคลที่ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่
และซับซ้อน ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญหลายส่วน เช่น ส่วนการสร้างพจนานุกรมข้อมูลภาษา
ในการดึงข้อมูล ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ ส่วนการเข้าถึงข้อมูล และส่วนความปลอดภัยของข้อมูล
เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้คือ บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ดีบีเอ็มเอส นั่นเอง
ผู้พัฒนาเครื่องมือ (Tool Developers)
ผู้พัฒนาเครื่องมือ (Tool Developers):เครื่องมือเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการออกแบบและ
ใช้งานระบบฐานข้อมูล อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น และมักจะจำหน่ายแยก
จากระบบจัดการฐานข้อมูล
พนักงานปฏิบัติการและผู้ดูแลระบบ (Operators and Maintenance Personnel)
พนักงานปฏิบัติการและผู้ดูแลระบบ (Operators and Maintenance Personnel) : เป็น
กลุ่มบุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแลและบำรุงรักษาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบฐานข้อมูลใน
ขณะใช้งานจริง
2. อธิบายหน้าที่ของ DBMS พร้อมยกตัวอย่าง
DBMS ย่อมาจาก Database Management System
DB คือ Database หมายถึง ฐานข้อมูล
M คือ Management หมายถึง การจัดการ
M คือ Management หมายถึง การจัดการ
S คือ System หมายถึง ระบบ
หน้าที่ของDBMS
1. ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล (Data Storage) การเรียกค้น (Retrieval) และการ แก้ไขเปลี่ยนแปลง (Update) เป็นความสามารถพื้นฐานที่ระบบจัดการฐานข้อมูลทุกตัวจะต้องมี ซึ่งถึงแม้ว่าระบบจัดการฐานข้อมูลจะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ แต่ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ที่จะต้องรู้ถึงโครงสร้างฐานข้อมูลและการกระทำกับฐานข้อมูลนั้นด้วย
2. ความสามารถในการเข้าถึงพจนานุกรม (Catalog) ซึ่งเป็นที่เก็บนิยามของข้อมูลบนฐานข้อมูล เป็นส่วนที่มีความสำคัญสำหรับผู้บริหารฐานข้อมูลหรือโปรแกรมเมอร์ที่จะเขียนโปรแกรมเพื่อใช้งานฐานข้อมูลนั้น
3. การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงแก้ไขร่วมกัน (Shared Update) เป็นการเพิ่มความมั่นใจในความถูกต้องเมื่อมีผู้ใช้หลายคนต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขฐานข้อมูลในเวลาเดียวกัน
4. การสำรองข้อมูล (Backup) และการกู้ข้อมูล (Recovery) เป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับฐานข้อมูล โดยจะทำการสำรองฐานข้อมูลไว้และในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น ก็จะทำการกู้ข้อมูลโดยใช้ส่วนที่สำรองไว้ แต่มีข้อเสียคือ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนเกิดความเสียหายจะไม่ถูกบันทึกไว้
5. การรักษาความปลอดภัย เป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าผู้ใช้งานที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ ซึ่งทำได้โดยการกำหนดรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ การเข้ารหัสข้อมูล และการกำหนดมุมมองของผู้ใช้
6. การรักษา Integrity ของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการสร้างเงื่อนไขให้กับข้อมูลใน ฐานข้อมูล รวมถึงกฎข้อบังคับต่างๆที่จะถูกใช้เมื่อมีความต้องการจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ
7. ความสามารถในการให้อิสระแก่ข้อมูล เป็นการสนับสนุนให้โปรแกรมเป็นอิสระจากโครงสร้างที่ซับซ้อนของฐานข้อมูล โดยการกำหนดโครงสร้างของฐานข้อมูลแยกออกมา ทำให้การเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับโครงสร้างนี้จะไม่มีผลต่อโปรแกรมที่ใช้ฐานข้อมูล
8. การนำเสนอยูทิลิตี้ต่างๆ เป็นยูทิลิตี้ที่ใช้ในการบำรุงรักษาทั่วไปในฐานข้อมูล เช่น การอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฐานข้อมูลได้ การอนุญาตให้เข้าถึงดอสได้จากในระบบจัดการฐานข้อมูล
ตัวอย่างของ DBMS
เช่น การจัดทำ DBMS เช่น แต่ละหน่วยงานจัดเก็บข้อมูลเอง อาจมีข้อมูลในส่วนที่เหมือนกัน หลายส่วน เช่น ฝ่ายบัญชี เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของพนักงาน และ ฝ่ายบุคคล เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของพนักงาน ถ้ามีการแก้ชื่อนามสกุลที่ ฝ่ายบุคคล ชื่อและนามสกุลที่ฝ่ายบัญชีก็จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วย เนื่องจาก ฝ่ายบัญชีจะดึงข้อมูลชื่อ-นามสกุล จากฝ่ายบุคคลมาใช้ เป็นต้น

นางสาวสุภาพร แซ่ผ่าน บัญชี 2 ปี 5506103099
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น